วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ง่ายๆ 5 นาที ในการทำความสะอาด NMD ที่ถูกต้อง

วันนี้ทางทีมงานจะมารีวิว การทำความสะอาดรองเท้า NMD ที่เรียกได้ว่า ละเอียดยิบที่สุดเท่าที่ Admin จะทำได้ แต่ก่อนอื่น ขอพูดถึงความนิยมของเจ้าตัวรองเท้า NMD กันก่อนนะครับ
รองเท้า NMD จากค่าย Adidas เข้ามาทำตลาดในไทย และได้รับความนิยมอย่างมาก จนเรียกได้ว่าน่าจะเป็นจุดสูงสุดของตัวค่ายเอง ณ เวลานี้ เมื่อ Admin ซึ่งอยู่ในแวดวงรองเท้ามาหลายปี และมีความชำนาญในด้านนี้ ได้ดูแนวโน้มของตลาด และความต้องการเจ้าตัว NMD ก็พบว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายของค่ายอื่น ไม่ว่าจะเป็น Nike , Converse , Onitsuka Tiger
ซึ่งเจ้า NMD นั้นเข้ามาเบียดส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มหลักของไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยการชูโรงในความเป็น Limited Edition และ การออกแบบที่แปลกตา รวมถึงนวัตกรรมที่สานต่อมาจากรองเท้ารุ่นพี่อย่าง Ultra boots ทำให้ NMD จะขึ้นแท่นรองเท้าที่คนต้องการมากที่สุด ณ เวลานี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

โดยในรุ่นต่างๆของ NMD ก็ยังแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆ ซึ่งจะต่างกันในเรื่องชนิดของวัสดุผ้าทำรองเท้า และรูปทรง แต่นวัตกรรมส่วนของพื้นโฟมนั้นยังคงเดิมในแต่ละรุ่น เช่น NMD_R2 PRIMEKNIT  ( New )  , NMD_R1 , NMD_R1 PRIMEKNIT , NMD_XR1
ในวันนี้ ทางทีมงานจะทำการรีวิววิธีทำความสะอาด NMD รุ่น R1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ทำความสะอาดได้ยากรุ่นหนึ่ง เพราะตัวผ้าทำจากวัสดุคล้ายผ้าดิบ  และพื้นโฟมที่ค่อนข้างเหลืองง่าย อีกทั้งยังมีซอกต่างๆ ที่เข้าถึงได้ยาก โดยจะแบ่งคร่าวๆ ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ
1.ตัวผ้ารองเท้า
2.พื้นโฟม
3.พื้นข้างในรองเท้า

ส่วนที่ 1 ตัวผ้ารองเท้า

ส่วนใหญ่น้ำยาทั่วไปสามารถทำความสะอาดได้ แค่มีคุณสมบัติของน้ำยาที่จำเพาะเพียงไม่กี่ข้อ เช่น ไม่กัดสี ไม่ทำให้สีตก แต่จุดสำคัญของการทำความสะอาดคือ แปรงที่เลือกใช้ แปรงที่เหมาะสำหรับการทำความสะอาดรองเท้าคือแปรงขนธรรมชาติ ซึ่งเส้นขนจะมีความยืดหยุ่นเฉพาะตัวที่ต่างจากแปรงทั่วไป ทำให้เข้าทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง แต่ไม่ทำลายวัสดุทำรองเท้า 


หลักการเลือกแปรง
1. ทำจากวัสดุธรรมชาติ ไม่ทำลายพื้นผิวรองเท้า 
2. ความแข็งต้องพอเหมาะ ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป เพื่อการทำความสะอาดอย่างหมดจด
3. ขนาดของเส้นขนต้องไม่หนา หรือบางจนเกินไป เพราะจะต้องเน้นการเข้าทำความสะอาดได้ถึงซอกต่างๆ ของตัวรองเท้า
โดยหลังจากพ่นสเปรย์ลงไปบนตัวรองเท้าแล้ว ให้ใช้แปรงขนธรรมชาติช่วยขัดทำความสะอาดจนเกิดฟอง หลังจากนั้นจึงใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือ ชามัวร์ธรรมดาเช็ดโฟมที่ตกค้างออกได้เลย เป็นอันเสร็จสิ้นส่วนของด้านบน

ส่วนที่ 2 พื้นโฟม 
โดยทั่วไปปัญหาที่เจอกันบ่อยๆ และ เมื่อเกิดขึ้นแล้วค่อนข้างจะแก้ไขได้ยาก หรือแก้ไม่ได้เลยคือ ลักษณะของโฟมที่เหลืองเป็นคราบ และด้วยลักษณะของพื้นโฟมที่จะมีความขรุขระ ทำให้มีร่องเล็กร่องน้อยที่คราบสกปรกมักจะเข้าไปฝังได้ ตามรูปด้านล่าง
ซึ่งจากประสบการณ์ของ Admin การทำความสะอาดส่วนนี้อย่างน้อย "สัปดาห์ละ 1 ครั้ง" จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เนื่องจากช่วยป้องกันการเกิดคราบเหลือง อีกทั้งทำให้คราบที่มีอยู่แล้วจางลงได้เรื่อยๆ โดยจะแนะนำให้ใช้แปรงช่วยขัด เพื่อการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง
 
แปรงที่เลือกใช้ สามารถใช้ตัวเดียวกับที่ทำความสะอาดส่วนที่เป็นผ้าได้ ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติเด่นของเจ้าแปรงขนธรรมชาติเลยทีเดียว เพราะเส้นขนจะมีความยืดหยุ่นเฉพาะตัวที่ต่างจากแปรงทั่วไป สามารถเข้าทำความสะอาดได้ถึงซอกพื้นโฟม โดยไม่ทำลายเนื้อโฟมเลยแม้แต่น้อย 

 ส่วนที่ 3 พื้นข้างในรองเท้า
ปัญหาที่คนทั่วไปอาจยังไม่รู้คือ NMD รุ่นนี้ ไม่สามารถถอดพื้นรองเท้ามาทำความสะอาดข้างนอกได้!! และอีกปัญหาหนึ่งคือคราบสกปรกที่ฝังอยู่ข้างในรองเท้าเหล่านี้ เป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรียชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดกลิ่นเท้า!! เอาละ แล้วเราจะทำอย่างไรดี 
 จากประสบการ์ณของ Admin ถ้าถอดไม่ได้ ก็แนะนำให้ซักมันทั้งอย่างนั้นเลยครับ แต่ปัญหาคือ ถ้าใช้น้ำยาทั่วไป จะทำให้เกิดความชื้นและกลิ่นอับตามมา เพราะพื้นโฟมนั้นเกิดความชื้นได้ง่ายมากๆ ถ้าเลือกน้ำยาไม่ถูกชนิดละก็ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน กลิ่นก็จะไม่มีทางหายไปครับ
โดยจุดสำคัญคือ ควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้
1. ไม่ต้องใช้น้ำช่วยในการทำความสะอาด ไม่ทำให้อับชื้น เพราะจะเป็นเพิ่มกลิ่นอับเข้าไปอีก
2. ช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นอับ
3. มีรูปแบบที่ใช้ง่าย สามารถเข้าถึงได้แม้กระทั่งส่วนลึกๆ ของปลายรองเท้า
ถ้าใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ขาดคุณสมบัติเหล่านี้ ปัญหานี้ก็จะแก้กันไม่จบไม่สิ้นเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะหาซื้อน้ำยาทำความสะอาดมาใช้ ก็เลือกกันดีๆนะครับ

MDs’ FAVORITES | adidas NMD R2 PK สีดำและขาวคู่งาม ที่เราหยิบมาให้ดูกัน


รองเท้าที่โด่งดังมากๆ คู่หนึ่งในประเทศไทย คงต้องยกให้ adidas NMD เพราะไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาก็ตาม ทุกคนก็ยังอยากได้กันทั่วบ้านทั่วเมือง แถมได้ข่าวว่าจะมีคนไป Camp อีกด้วย เพราะกติกาการซื้อขายเป็นแบบ First Come, First Serve และกำลังจะวางขายในวันพรุ่งนี้ แต่เราโชคดีครับได้มีโอกาสหยิบมาให้ทุกท่านได้ดูกันก่อนแบบ Exclusive ลองมาดูกันครับว่ารองเท้าคู่นี้เป็นยังไง



NMD R2 นั้นพัฒนาจาก R1 ขึ้นมาพอสมควรเลย เพราะมีการเอา Plug ด้านหน้าและข้างเท้าด้านนอกออก เหลือไว้เพียงข้างเท้าด้านในเท่านั้น (ต่อยอดออกมาให้คล้ายกับ Ultraboost มากขึ้น) ซึ่งทำให้ปริมาณ Boost มีมาขึ้นในช่วง Fore-Foot และถึงแม้จะลด Plug ข้างเท้าด้านนอกออก แต่ adidas ก็ได้ปั้มลายขีดเฉียงเพิ่มเข้ามาแทนที่

ลายที่เกิดจากการ Knit ของผ้า Primeknit ยังคงยึดเอาต้นแบบของ R2 Original มาใช้ แต่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยทำให้รองเท้าคู่นี้มีลิ้นรองเท้า และบุช่วงข้อเท้าด้วยผ้า Mesh เพิ่มเติมเพื่อให้ใส่สบายมากขึ้น แต่ส่วนปลายเท้าจะเป็นผ้า Primeknit ล้วนครับ (สังเกตได้จากรอยต่อของตัวรองเท้า) ส่วนพื้นรองเท้ายังเป็น Rubber Sole อยู่เช่นเดิม แต่เปลี่ยนสีเป็นสีแดง แถมคู่ที่เราหยิบมาให้ดู Pull Tab ด้านหลังมีภาษาญี่ปุ่นด้วยนะครับ น่าจะเป็น Lot ที่เท่ขึ้นไปอีก



คำถามสำคัญคือ ใส่สบายมั้ย? ด้วย Boost Technology ยังไงๆ ก็ใส่สบายกว่า EVA ธรรมดาแน่นอน ยิ่งลด Plug EVA ที่เคยอยู่ในรุ่น R1 ลงไปด้วย ยิ่งทำให้รองเท้าคู่นี้ใส่สบายมากขึ้น แต่สิ่งเดียวที่ MDs ติดก็คือตัวลิ้นรองเท้าครับ จริงๆ เราอยากให้คู่นี้ยังคงความเป็น Slip-On เหมือน R1 และ R2 Original แต่โดยรวมแล้ว คู่นี้ถือว่าสวย ใส่สบาย ใครว่างวันพรุ่งนี้ (วันจักรี) ก็อย่าลืมไปดู NMD R2 Pk ตัวนี้นะครับ ก่อนที่มันจะหายไปจากตลาดในเวลาอันรวดเร็ว รีบไปเลยๆ

วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560

รองเท้า Adidas NMD R1 คนแห่แย่งซื้อจนเกิดดราม่า ล่าสุดแบรนด์ดังเตรียมแถลง


อาดิดาส ประเทศไทย เตรียมแถลงชี้แจงปมคนรุมซื้อรองเท้า Adidas NMD จนเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ข้าวของเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ คาดออกแถลงการณ์เร็วสุดภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
           ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกแชร์และพูดถึงกันเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล สำหรับการเปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ของแบรนด์อาดิดาสที่ห้างสรรพสินค้าสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งทำให้นักช้อปต่างแห่กันไปแย่งจับจองเป็นเจ้าของถึงขั้นมีการพังประตู  มีคนล้มเป็นลม และกระจกร้านแตก จนทำให้ทางร้านอาอิดาสต้องสั่งปิดการขายพิเศษนี้ทันที พร้อมใช้วิธีการจับสลากเพื่อหาผู้ได้สิทธิ์ซื้อรองเท้านั้น

 ล่าสุด วันที่ 31 มกราคม 2559 ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท อาดิดาส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัท อาดิดาส เตรียมออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์ความวุ่นวายจากการแย่งซื้อรองเท้าอาดิดาส รุ่นนอร์แมต หรือ NMD R1  ที่ร้านอาดิดาส สาขาสยามเซ็นเตอร์ ทั้งนี้คาดว่าแถลงการณ์อย่างเป็นทางการดังกล่าว น่าจะออกมาได้เร็วที่สุดภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
           โดยในเบื้องต้น ทางบริษัท อาดิดาส ระบุว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าว เกิดขึ้นเฉพาะที่ร้านอาดิดาส สาขาสยามเซ็นเตอร์ เพียงสาขาเดียว และเมื่อเกิดเหตุชุลมุนขึ้นมานั้น เจ้าหน้าที่ของร้านอาดิดาส สาขาสยามเซ็นเตอร์ ก็ได้สั่งยุติการขายรองเท้าอาดิดาส รุ่น NMD_R1 ทันที พร้อมปรับเปลี่ยนวิธีจำหน่ายใหม่ ด้วยการให้ลูกค้าลงชื่อและจับสลากแทน ส่งผลให้ไม่เกิดความวุ่นวายใด ๆ ขึ้นอีกตลอดวัน 
  สำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ร้านอาดิดาส สาขาสยามเซ็นเตอร์นั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา หลังมีลูกค้ามาต่อคิวซื้อรองเท้าอาดิดาส รุ่น NMD_R1  ซึ่งมีราคาคู่ละ 6,990 บาท  เพื่อนำไปสะสม รวมถึงการเก็งกำไรกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยได้โควตามาจำหน่ายทั่วประเทศไม่ถึง 200 คู่ โดยนอกจากอาดิดาส จะวางขายที่สาขาสยามเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีที่สยามสแควร์ ซอย 7, สาขาพัทยา, สาขานิมมานเหมินทร์ เชียงใหม่, และทางเว็บไซต์อาดิดาส ซึ่งล่าสุดทุกช่องทางจำหน่ายหมดแล้ว 


ADIDAS NMD ปล่อยรองเท้า 10 รุ่นใหม่ล่าสุดเมื่อ 1 ตุลาคม 59 ที่ผ่านมา

ครั้งแรกก็ตอนวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมาซึ่งครั้งนั้น Adidas ประกาศออกมาแล้วว่าจะปล่อยรองเท้าสุดฮิตอย่าง NMD ถึง 19 คู่ 19 สีด้วยกันก็ทำเอาเหล่าสาวกรองเท้าสนีกเกอร์แย่งกันซื้อกันแทบไม่ทัน ล่าสุดทาง Adidas ก็ได้ประกาศออกมาอีกรอบว่าจะปล่อยตัวรองเท้า Adidas NMD อีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แถมรอบนี้ยังปล่อยออกมาถึง 10 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่นเด่นๆ ก็ยังคงเป็น Adidas NMD R1 สุดคลาสสิก กับ Adidas NMD XR1 โมเดลใหม่ล่าสุดในซีรี่ส์ ราคาในช็อปไทยเริ่มต้นที่ 4,990 บาทสำหรับรองเท้าผู้ใหญ่ และ 3,990 บาทสำหรับรองเท้าเด็ก
แน่นอนว่ายังจำกัดจำนวนคู่อีกเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นคนที่จะได้ครอบครองนอกจากจะต้องทำตามกติกาจากทาง Adidas แล้วแพรวว่าก็คงต้องพึ่งดวงด้วยแล้วแหละแต่ก่อนที่จะไปต่อแถวซื้อกันพรุ่งนี้เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีรุ่นไหนโดนใจกันบ้าง
adidas NMD Chukka TR (Black -S81834)
adidas NMD Chukka TR (Light Grey – S81835)
adidas NMD R1 (BLackBlue – S31515)
adidas NMD R1 (BlueYellow – S31514)
adidas NMD R1 (BlueYellow – S31514)
adidas NMD R1 (NavyPink – S76011)
adidas NMD R1 (TanRed – S81881)
adidas NMD XR1 (BlackBlue – S2215)
adidas NMD XR1 (Pink – BB3687)
adidas NMD XR1 (white-black-glitch-red – S32216)

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

ผ่าสเปก adidas NMD ผู้สร้างปรากฏการณ์ซอมบี้ไทยแลนด์


อยากรู้ไหม? ทำไมคนเฮโลกันเข้าไปแย่งซื้อรองเท้าแฟชั่น NMD R1 เหมือนซอมบี้รุมทึ้ง ซึ่งนี่คือ คำตอบที่เราหามาให้
สำหรับรองเท้าแนวแฟชั่นกีฬาหรือที่เรียกกันว่า ‘สนีคเกอร์’ รุ่นนี้ อยู่ในตระกูล Originals (แนวรองเท้าวิ่ง) โดยรูปร่างมาในแบบ Futurism ที่กำลังเป็นเทรนด์ของรองเท้าแฟชันสตรีทในปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครที่ชื่นชอบรองเท้าสายนี้อยู่แล้ว ก็คงรู้จักรุ่นยอดนิยมอย่าง ZX Flux  หรือ Tubular Runner มาบ้าง แต่สำหรับ NMD เป็นอะไรที่แตกต่างและเหนือกว่านั้น

โดยชื่อเต็มคือ Originals NMD Runner (NMD R1) ซึ่ง ‘NMD’ มาจาก ‘NOMAD’ ที่หมายถึง ‘นักท่องเที่ยว/ผู้เร่ร่อน’
ทางด้านฝ่ายออกแบบของอาดิดาสเคยออกมาบอกเล่าถึงสนีคเกอร์รุ่นนี้ว่า หัวใจหลักของ adidas Originals แม้ยังเน้นการนำเรื่องราวของอดีตมาเป็นธีม แต่ก็เติมเต็มความคลาสสิคที่ทุกคนถวิลหาเข้ากับเทรนด์ของผู้คนยุคใหม่ที่ชอบเดินทาง จึงออกมาในรูปแบบรองเท้าที่ให้อารมณ์เหมือนรองเท้าผ้าใบทั่วไปผ่านสีสัน แต่รูปทรงดูทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน
ทั้งหมดทำให้ NMD ดูน่าสนใจมาก ในแง่รูปร่างหน้าตาที่สะสวยแบบร่วมสมัย พร้อมด้วยรายละเอียดที่น้อยแต่เด่น โดยตัวก่อนเป็นการตัดเอาคู่สีจากรองเท้าวิ่ง 3 รุ่นดังในอดีตมาไว้ในที่เดียว ส่วนเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำเอาสาวกแห่แหนไปแก่งแย่ง ยิ่งเด่นชัด ด้วยความคลาสสิคและร่วมสมัย จากโทนสีเทาสลับดำบนอัปเปอร์ผ้า ซึ่งทำให้สีเหลื่อมกันไปมาอย่างมีมิติ แถมความโดดเด่นยังอยู่ที่แผ่นหุ้มเอ็นร้อยหวาย, แถบผ้าด้านหลังที่มีประโยคว่า ”The Brand With The 3Stripes”





ทั้งนี้ NMD R1 เป็นผลงานชิ้นเอกของฝ่ายออกแบบอาดิดาส ซึ่งผสมผสานสไตล์ของรองเท้าวิ่งในอดีตกับเทคโนโลยี และดีไซน์ของสนีคเกอร์ยุคใหม่ โดยรองเท้าวิ่งสุดคลาสสิค ทั้ง 3 รุ่นที่กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในแง่มุมต่างๆ คือ
-adidas Micro Pacer (ในแง่ของการเคลื่อนที่/ออกตัวพุ่งทะยาน)
-adidas Rising Star (เรื่องการรองรับแรงกระแทกและการทรงตัว)
-adidas Boston Super (ความบาง/บางและพื้นล่างอันยอดเยี่ยม)


ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการพัฒนาทั้งพื้นชั้นกลางที่มี EVA Plugs โฟมสี่เหลี่ยมที่แปะด้านข้าง 3 จุด เพื่อเพิ่มความทนทาน ให้กับตัวพื้นรองเท้าชั้นนอกสุดที่เน้นการรองรับแรงกระแทกและมีดอกยางยึดเกาะพื้น (เหมือน adidas Boston Super) ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ ‘Boost’ ส่วนอัปเปอร์เป็นแบบผ้าถัก (ไพรม์นิต) ที่บาง แต่กระชับและยืดหยุ่น อีกทั้งระบายอากาศดี (เพื่อให้ความรู้สึกเดียวกับการใส่ถุงเท้า) เรียกว่า สเปกของรองเท้ารุ่นนี้นั้น จัดเต็มมาให้ตามสไตล์รองเท้าวิ่งเลยทีเดียว


สรุปแล้ว สิ่งที่น่าจะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ในตัว NMD ก็คือ ความสะสวยและเซ็กซี่แบบเรียบง่าย แต่โดนใจ ซึ่งผสมผสานจากจุดเด่น ทั้งด้านดีไซน์ของรองเท้าวิ่งชื่อดังในอดีต รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ให้แรงบันดาลใจมาสานต่อสู่รองเท้ารุ่นใหม่ ยิ่งเมื่อผนวกกับระบบการขายแบบจำกัดด้วย ซึ่งว่ากันว่า สาขาสยาม มีจำหน่ายแค่ ’50 คู่’ ในราคา 6,990 บาท (โดยอาดิดาส สาขาสยาม ได้เปลี่ยนวิธีการซื้อปกติเป็นจับฉลาก) NMD จึงกลายเป็นของหายากไปโดยปริยาย งานนี้ เลยแล้วแต่บุญแต่กรรมและความไว ถ้าอยากได้ ก็จัดไป (ของหิ้วอาจแพงหน่อย) แต่ถ้ารอไหว ไปรอลุ้นรุ่นหน้าละกัน…


ที่มา: ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก adidas.co.th/nmd, highsnobiety.co, complex.com

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

อัพเดท! 5 Adidas NMD สีพาสเทล เห็นแล้วกรี๊ด! นาทีนี้ต้องพรีออเดอร์ด่วน!

           วันนี้เราขอเอาใจสาวๆ ที่ชอบใส่รองเท้าสีหวานๆ กันสักหน่อยค่ะ ด้วยการอัพเดท 5 รองเท้าสีพาสเทลยอดฮิต รุ่นดังอย่าง Adidas NMD  มาให้สาวๆ ได้เกิดกิเลสกัน! แต่ละคู่ที่เรารวบรวมมามีทั้งรุ่นยอดฮิต รุ่นลิมิเต็ด ซึ่งแต่ละคู่สีสวยโดนใจ รับรองเลยว่า สาวๆ เห็นแล้วต้องอยากได้จนต้องรีบหาร้านพรีออเดอร์กันด่วนๆ แน่นอนค่า

 1. Adidas NMD Exclusive OFFICE Shoes 
     สำหรับ NMD สีล่าสุดคู่นี้ แค่เห็นสีก็เตรียมหาร้านพรีออเดอร์แทบไม่ทันเลยค่ะ เพราะสีหวานๆ ที่ตัดกันอย่างลงตัวระหว่างสีเทาและสีชมพู ทำเอาสาวสปอร์ตสายหวานต้องรีบควักเงินซื้อกันเป็นแถบๆ ซึ่งคู่นี้เห็นเค้าว่ามีแค่ที่ UK เท่านั้นค่ะ ใครอยากได้ รีบหาร้านพรีกันด่วนๆ เลยจ้า


 2. Adidas NMD R1 Salmon Pink 
สำหรับคู่นี้เป็น NMDs สีชมพูที่ออกมารุ่นแรกๆ เลยค่ะ เป็นสีชมพูโทนเข้มกว่ารุ่นล่าสุด แต่บอกเลยว่า ความน่ารักไม่น้อยไปกว่ากันเลย! ใครเป็นสาวกสีชมพุ รุ่นนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว!


3. Adidas NMD R1 Primeknit French Beige 
ใครกลัวว่าสีชมพูจะใส่ยากไป เราขอแนะนำสีหวานๆ อีกหนึ่งสีอย่างสี French Beige เลยค่ะ เป็นสีน้ำตาลอมนู้ด ที่ใส่ง่ายแถมแมทช์กับชุดได้แทบทุกสี ใครเป็นสายนู้ด ต้องมีคู่นี้ติดไว้เลย!


4. Adidas NMD R1 White Tactile Green 
แม้จะเป็นรองเท้าสีขาวก็ให้ลุคสวยหวานได้! สำหรับคู่นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของสาวที่อยากได้รองเท้าสีหวานแบบเบาๆ เลยค่ะ เพราะคู่นี้เน้นตกแต่งสีมิ้นท์พาสเทลแค่ช่วงด้านหลังรองเท้าเท่านั้น จึงทำให้ดูไม่หวานเกินไป โดนใจสาวที่ชอบรองเท้าสีขาวแน่นอน!


5. Adidas NMD XR1 Duck Camo 
รุ่นนี้ต้องบอกว่าเป็นสไตล์หวานปนเท่เลยค่ะ เพราะนอกจากจะนำมาด้วยสีหวานๆ อย่างสีชมพูแล้ว คู่นี้เค้ายังมีความเท่ด้วยการแทรกลาย Camo หรือลายทหารไว้ทั่วตัวรองเท้าอีกด้วย! แล้วไหนจะมีสีน้ำตาลอ่อนๆ ปนนู้ดบริเวณแท็กด้านหลังและด้านข้าง ที่มาช่วยเพิ่มความลงตัวเข้าไปอีก เห็นแล้วบอกเลยว่า ต้องโดน!








หมัดต่อหมัด รองเท้า Adidas Yeezy – NMD R1 มีดียังไง…ทำไมใครก็อยากได้

เคาน์ดาวน์วินาทีต่อวินาที นับตั้งแต่ รองเท้า Adidas ปล่อย Running shoes ออกมา 2 รุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสชั่วข้ามคืน กับดราม่าการต่อคิวซื้อจนเกิดเหตุจลาจล ทำให้ราคาตอนนี้พุ่งทะลุหลายหลักหมื่น ส่วนหนึ่งเพราะดาราเซเลบฮอลลีวู้ดใส่ หรือราคาที่ให้พ่อค้าแม่ค้ามาปล่อยได้สูงเกินเท่าตัว เพราะเหตุผลอะไรเราไปดูความเจ๋งของราชา Running Shoes 2 คู่นี้กัน


Adidas NMD Runner R1

ว่ากันด้วยรูปทรงที่แรกเห็นก็ตกหลุมรัก กับโมเดลใหม่ล่าสุดจาก Adidas “NMD Runner R1” หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปลายปี ปีนี้ตอกย้ำความฮิตกลับมาในเฉดสีใหม่ ที่ผสมผสานดีไซน์สุดล้ำจากการนำนวัตกรรมสุดไฮเทคอย่าง Primeknit มาถักทอ ให้คุณสมบัติเบาสบาย ยืดหยุ่นต่อการสวมใส่ โดยไหมสีดำเทาที่ถูกนำมาใช้นั้น ได้ถูกจับมาประสานกันอย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวจนทำให้รองเท้าดูสะดุดตาและมีมิติมากขึ้น

เจาะลึกส่วนแรก สงสัยรึไม่ว่าเขามี EVA Plugs โฟมสี่เหลี่ยมแปะอยู่ด้านข้าง 3 จุด ไว้ทำไม ไม่ใช่มีไว้โก้ๆ แต่เพื่อเพิ่มความทนทาน ให้กับตัวพื้นรองเท้าชั้นนอกสุดที่เน้นการรองรับแรงกระแทกและมีดอกยางยึดเกาะพื้น ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ ‘Boost’
ส่วนที่สองของ Upper เป็นแบบผ้าถัก Primeknit มีความกระชับและยืดหยุ่น อีกทั้งระบายอากาศดี แบบไม่ต้องใส่ถุงเท่าเพิ่มสำหรับคนที่รักการวิ่งกับการขจัดปัญหาเรื่องเหงื่อ
ข้อสุดท้าย ความนิยมในตัวเซเลบริตี้และซุปเปอร์สตาร์ ที่ตั้งแต่เปิดตัวก็มีใส่ให้เห็นมากมาย จนเกิดกระแส และทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้หลายคนคลั่งไคล้ในตัว NMD R1 คงจะเป็นเพราะดีไซน์สวย ทรงเสน่ห์ ตอบโจทย์การใช้งาน รวมถึงผสมผสานจุดเด่นของรองเท้าวิ่งในอดีตไว้ในคู่เดียว และการออกมาในรูปแบบลิมิเต็ด จำนวนจำกัดที่คาดว่าจะส่งผลกำไรให้พ่อค้า-แม่ค้าสามารถส่งต่อจากราคาเปิดตัว 6,990 บาท พุ่งทยานสู่หลักหมื่น

Adidas Yeezy Boost 350

เพิ่งจบกระแสไปไม่นาน แต่ Yeezy ก็ยังคงอยู่ในตลาดความต้องการของเหล่าสนีกเกอร์ทั้งหลายอยู่ และราคาก็ยังคงแรง เรียกว่าบางที่เหยียบหลายหมื่น ทั้งที่จริง ๆ Adidas ก็ Sold out ไปหมดแล้วแต่ก็ยังมีบางคนเก็บไว้เก็งกำไร รอจัดชุดใหญ่ในตลาด ถ้าจะพูดถึง Yeezy น่าจะเป็นรุ่นพี่ของ Adidas ที่ระเบิดทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิต แม้จะดึงหลักการของรุ่นเก๋าๆ มาใช้แต่เมื่อ Kanye West มาร่วมกับ Adidas ยิ่งเป็นการการันตีความนิยมของ Running Shoes คู่นี้ได้อย่างดี

จุดแรกของ Yeezy ตัว Upper ใช้วัสดุถักทอสไตล์ Adidas ด้วยเทคโนโลยี Primeknit เช่นเดียวกับ NMD มีความยืดหยุ่น โอบกระชับเท้าและรองรับรูปแบบการเดินและวิ่งที่แตกต่างของแต่ละบุคคล ทั้งตัวรองเท้าจะมีรอยเย็บต่อตะเข็บอยู่แค่จุดเดียว พื้นรองเท้าเป็นพื้นยางและมีน้ำหนักเบา
ส่วนตัวชิ้นโฟมที่เป็น Boost technology หรือจุดขายที่ Kanye West พยายามบอกว่าสิ่งที่ทำให้ Yeezy Boost มีความแตกต่างและสบายกว่ารองเท้ารุ่นอื่นๆ ที่อยู่ใต้พื้นรองเท้า ให้ความรู้สึกนิ่ม เด้งและเคลื่อนไหวได้สะดวก แม้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 8,490 บาท แต่ตอนนี้กลับพุ่งทยานไปแตะ 30,000 แล้วเช่นกัน

โดยรวมแล้วทั้ง NMD และ Yeezy ตอบโจทย์ได้ตรงใจทั้งคนที่รักการออกกำลังและเหล่าสาวกสนีกเกอร์ได้อย่างดี เพราะดีไซน์ที่ปรับใช้ได้ทั้งสองฟังก์ชั่น น้ำหนักเบา ดีต่อเท้าและที่สำคัญเมื่อใส่ไปสักพัก รองเท้าก็จะเริ่มเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย จนคุณลืมไปเลยว่าสวมรองเท้าอยู่ แต่อย่างไรก็ดี ควรรักชอบอย่างพอดี และมีสติ ไม่เช่นนั้นคุณอาจเสียใจภายหลังด้วยอารมณ์การตัดสินใจชั่ววูบนะจ๊ะ




วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แท้หรือปลอม Adidas NMD

รองเท้า adidas nmd แท้หรือปลอม


Adidas NMD ฮิตติดลม ของแรง ที่ราคามีแต่จะขึ้น กระทั้งบางคนเรียกรุ่นซอมบี้เหอะ อยากรู้ไหม ของแท้ ของเทียมดูง่าย ๆ ยังไง
ออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ใช่เซียนรองเท้า แค่วิชาการสังเกตุ และ อาศัยรองเท้า NMD หลายที่คู่ที่ผ่านตามาเลยเอามาเล่าสู่กันฟัง
ของแรง ๆ ราคาขึ้นจนบางคู่ราคาเกือบสามหมื่นบาทนั้น คงต้องระวังกันหน่อยเดี๋ยวจะซื้องของปลอมมาใช้ หรือ ถ้าคุณจะซื้อของปลอมมาใช้ก็ควรจะรู้ว่าจะถูกจับได้จุดไหนบ้าง
ข้อมูลทั้งหมดนี้ ผมเทียบกับของปลอมที่ซื้อมาทดสอบ เกรด Top Mirror AAA เวอร์ชั่นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ดังนั้นของก็อปรุ่นใหม่กว่านี้อาจมีการปรับปรุงคุณภาพให้เทียบแท้มากยิ่งขึ้น
และออกตัวอีกครั้งว่า “ไม่ใช่เซียน” ใครมีข้อมูลเสริมรบกวนแจ้งหน้าเฟสได้ทันที จะได้เอามาอัพเดทเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจต่อไป หรือ ให้เห็นของปลอมเกรดดีกว่านี้ชี้เป้าด้วยจะขอบคุณมาก
รายละเอียดการเช็คแท้ หรือ เทียมของ NMD นั้นมีหลายจุด แต่ขอพูดถึง 3 จุดง่าย ๆ ที่ดูได้ด้วยตาเปล่า ไม่ต้องเทียบ เรียกได้ว่าเห็นใครใส่เดินมาระยะ 10 เมตร มองปราดเดียวรู้เลยกับสโลแกน

1.หัวโต

พื้นรองเท้า Boost ของ NDM ลักษณะพื้นจะกว้างกว่ารองเท้า ใส่แล้วก้มมองเท้าตัวเอง จะต้องเห็นของพื้นรองเท้า รวมไปถึง แถบด้านข้างตามลูกศรในรูปด้านบน
ของปลอมที่เห็นมาเกือบทุกเกรด พื้นรองเท้ายังทำไม่กว้างพอ หรือ หัวไม่โต นั่น ทำให้เวลาใส่แล้วมองปราดเดียวรู้เลย

2 ตูดบาน



ต่อเนื่องมาจากจุดที่แล้ว พื้นรองเท้าของปลอมทรงจะไม่กว้าง ไม่บานเท่าของแท้แล้ว ทรงของส้นรองเท้าเมื่อมองจากด้านหลังตั้งตรงกว่าของแท้ที่ทรง “บาน” มากกว่า แถมมุมส้นด้านในยังเว้าขึ้นมากกว่าด้วย เทียงง่าย ๆ ตามรูปด้านบนเลย
เวลาใครใส่เดินมา มองส้นเท้าให้สังเกตุความบาน ของแท้จะบานมากกกกก
หรือ ถ้าดูไม่ออกเพราะไม่มีให้เทียบ สังเกตุก้อน EVA Plugs หรือ ก้อนสี ๆ ด้านข้างรองเท้า มันจะต้องหนาเด่นขึ้นมาตามรูปด้านบนเพราะขอบพื้นรองเท้ามันเอียงมากจนเห็นสัน EVA ชัดเจน ในขณะของปลอมจะแบนติดรองเท้าเพราะพื้นมันตรงขนานกับก้อน EVA นั้นเอง

3 หูตั้ง

จุดสุดท้ายที่เป็นจุดที่สังเกตุง่ายที่สุดคือ หูหลังของรองเท้า วัสดุของปลอมกับของแท้จะไม่เหมือนกันเลย ยังไม่เคยเห็นงานปลอมทำได้เหมือนแท้เลย
ของแท้จะเป็นแถบผ้าสังเคราะห์สานจนแน่น แข็ง และ รีดปลายมาจนคมเป็นสัน
ของปลอมวัสดุเป็นแถบผ้าที่สานตาใหญ่กว่า นิ่ม และ ปลายไม่สามารถรีดจนคมเป็นสันได้
ดังนั้นเวลาใส่แล้วหูจะนิ่มล้ม ไม่เป็นทรง แต่ของแท้ปลายจะพับเรียบคมตลอดเวลา ซื้อมาใหม่ ๆ หูหลังจะตั้งตรงเลยแหละ
ของแท้ ใส่ไปนาน ๆ โดนขากางเกงเบียด มีโอกาศไม่ตั้งได้ แต่เวลาของปลอม “ล้ม” จะล้มแบบเป็นทรง ขอบสันจังคง “กริบ” เหมือนเดิม
ตูดบาน หูตั้ง ใส่แล้วมันจะเป็นทรงแบบนี้
เป็นไงมั่ง 3 จุดง่าย ๆ ในการ “เล็ง” NM

จุดสังเกตุอื่น ๆ

มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายจุด ทั้งรูปทรง และ วัสดุโดยมีรายละเอียดดังนี้

EVA Plugs

EVA Plugs หรือ ก้อนด้านข้าง ทรงของแท้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ผอม ยาว แต่ของปลอม จะอ้วน สั้น หน้า-หลัง ความกว้างแทบไม่ต่าง ไม่ได้ทรงD ปลอม สั้น ง่าย แค่ “หัวโต ตูดบาน หูตั้ง” ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ของ NMD ทุกคู่ แม้ว้า่คู่ที่จะเอามาเทียบ ของแท้เป็น R1 ของเทียมเป็น CS 1 แต่จะเห็นได้ว่าคาแรคเตอร์ และ ทรงของรองเท้ายังสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาเปล่า
ในด้านวัสดุนั้นปัจจุบันเนื้อผ้าของปลอมนุ่มสบายกว่าของแท้เล็กน้อย และ ทนทานน้อยกว่า เสียทรงง่ายกว่า
มีคนบอกว่าของแท้โลโก้ ตรงเป๊ะ ของปลอมจะเบี้ยว…..ไม่เสมอไปหรอกครับ ของผมแท้เบี้ย ปลอมตรงซะงั้น
ปล. ของแท้ผมซื้อจากช๊อป Adidas ญี่ปุ่นนะครับ ไม่ได้ซื้อบนเวป ดังนั้นแท้ชัวร์

วัสดุโฟมของพื้น Boost

เป็นโฟมชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายอย่างดีที่สุด มีความนุ่ม ยืดหยุ่นเดินสบาย มีลักษณะคล้ายเม็ดโฟมอัดกันจนแน่น


หลายคนบอกว่าของปลอมดูพื้นก็รู้ เพราะวัสดุมัน “ไม่ได้”  แต่หากดูงานของผมแล้ววัสดุไม่ต่างกันเท่าไหร่ มีลายขวาง และ มีตุ่มยื่นออกมาเหมือนของแท้


วิธีดูง่าย ๆ คือ ของแท้ลายเส้นขวางจะชัดมากกว่า คมกว่า ส่วนตุ่มจะยื่นออกมาเยอะกว่า

EVA Plugs ก้อนหลัง

ของปลอมรุ่นแรก ๆ ก้อน EVA จะหล่อมาเป็นชิ้นเดียวกับพื้นรองเท้าแล้วมาทาสีเอา ในขณะที่ของแท้ก้อนทั้ง 3 นี้จะมีสีในตัว และ หล่อแยกจากกันแล้วนำมาติดภายให้
แต่…..ของปลอมรุ่นหลัง ๆ เค้าหล่อแยกออกมาเรียบร้อย เห็นเป็นชิ้นแยกจากพื้นรองเท้าชัดเจน


ดังนั้นสิ่งที่จะมองแท้-เทียมจุดนี้ได้คือ ความหนา
ของแท้หนายื่นออกมามากกว่า ของเทียบจะแบนติดกับพื้นรองเท้า