วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ง่ายๆ 5 นาที ในการทำความสะอาด NMD ที่ถูกต้อง

วันนี้ทางทีมงานจะมารีวิว การทำความสะอาดรองเท้า NMD ที่เรียกได้ว่า ละเอียดยิบที่สุดเท่าที่ Admin จะทำได้ แต่ก่อนอื่น ขอพูดถึงความนิยมของเจ้าตัวรองเท้า NMD กันก่อนนะครับ
รองเท้า NMD จากค่าย Adidas เข้ามาทำตลาดในไทย และได้รับความนิยมอย่างมาก จนเรียกได้ว่าน่าจะเป็นจุดสูงสุดของตัวค่ายเอง ณ เวลานี้ เมื่อ Admin ซึ่งอยู่ในแวดวงรองเท้ามาหลายปี และมีความชำนาญในด้านนี้ ได้ดูแนวโน้มของตลาด และความต้องการเจ้าตัว NMD ก็พบว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายของค่ายอื่น ไม่ว่าจะเป็น Nike , Converse , Onitsuka Tiger
ซึ่งเจ้า NMD นั้นเข้ามาเบียดส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มหลักของไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยการชูโรงในความเป็น Limited Edition และ การออกแบบที่แปลกตา รวมถึงนวัตกรรมที่สานต่อมาจากรองเท้ารุ่นพี่อย่าง Ultra boots ทำให้ NMD จะขึ้นแท่นรองเท้าที่คนต้องการมากที่สุด ณ เวลานี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

โดยในรุ่นต่างๆของ NMD ก็ยังแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆ ซึ่งจะต่างกันในเรื่องชนิดของวัสดุผ้าทำรองเท้า และรูปทรง แต่นวัตกรรมส่วนของพื้นโฟมนั้นยังคงเดิมในแต่ละรุ่น เช่น NMD_R2 PRIMEKNIT  ( New )  , NMD_R1 , NMD_R1 PRIMEKNIT , NMD_XR1
ในวันนี้ ทางทีมงานจะทำการรีวิววิธีทำความสะอาด NMD รุ่น R1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ทำความสะอาดได้ยากรุ่นหนึ่ง เพราะตัวผ้าทำจากวัสดุคล้ายผ้าดิบ  และพื้นโฟมที่ค่อนข้างเหลืองง่าย อีกทั้งยังมีซอกต่างๆ ที่เข้าถึงได้ยาก โดยจะแบ่งคร่าวๆ ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ
1.ตัวผ้ารองเท้า
2.พื้นโฟม
3.พื้นข้างในรองเท้า

ส่วนที่ 1 ตัวผ้ารองเท้า

ส่วนใหญ่น้ำยาทั่วไปสามารถทำความสะอาดได้ แค่มีคุณสมบัติของน้ำยาที่จำเพาะเพียงไม่กี่ข้อ เช่น ไม่กัดสี ไม่ทำให้สีตก แต่จุดสำคัญของการทำความสะอาดคือ แปรงที่เลือกใช้ แปรงที่เหมาะสำหรับการทำความสะอาดรองเท้าคือแปรงขนธรรมชาติ ซึ่งเส้นขนจะมีความยืดหยุ่นเฉพาะตัวที่ต่างจากแปรงทั่วไป ทำให้เข้าทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง แต่ไม่ทำลายวัสดุทำรองเท้า 


หลักการเลือกแปรง
1. ทำจากวัสดุธรรมชาติ ไม่ทำลายพื้นผิวรองเท้า 
2. ความแข็งต้องพอเหมาะ ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป เพื่อการทำความสะอาดอย่างหมดจด
3. ขนาดของเส้นขนต้องไม่หนา หรือบางจนเกินไป เพราะจะต้องเน้นการเข้าทำความสะอาดได้ถึงซอกต่างๆ ของตัวรองเท้า
โดยหลังจากพ่นสเปรย์ลงไปบนตัวรองเท้าแล้ว ให้ใช้แปรงขนธรรมชาติช่วยขัดทำความสะอาดจนเกิดฟอง หลังจากนั้นจึงใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือ ชามัวร์ธรรมดาเช็ดโฟมที่ตกค้างออกได้เลย เป็นอันเสร็จสิ้นส่วนของด้านบน

ส่วนที่ 2 พื้นโฟม 
โดยทั่วไปปัญหาที่เจอกันบ่อยๆ และ เมื่อเกิดขึ้นแล้วค่อนข้างจะแก้ไขได้ยาก หรือแก้ไม่ได้เลยคือ ลักษณะของโฟมที่เหลืองเป็นคราบ และด้วยลักษณะของพื้นโฟมที่จะมีความขรุขระ ทำให้มีร่องเล็กร่องน้อยที่คราบสกปรกมักจะเข้าไปฝังได้ ตามรูปด้านล่าง
ซึ่งจากประสบการณ์ของ Admin การทำความสะอาดส่วนนี้อย่างน้อย "สัปดาห์ละ 1 ครั้ง" จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เนื่องจากช่วยป้องกันการเกิดคราบเหลือง อีกทั้งทำให้คราบที่มีอยู่แล้วจางลงได้เรื่อยๆ โดยจะแนะนำให้ใช้แปรงช่วยขัด เพื่อการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง
 
แปรงที่เลือกใช้ สามารถใช้ตัวเดียวกับที่ทำความสะอาดส่วนที่เป็นผ้าได้ ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติเด่นของเจ้าแปรงขนธรรมชาติเลยทีเดียว เพราะเส้นขนจะมีความยืดหยุ่นเฉพาะตัวที่ต่างจากแปรงทั่วไป สามารถเข้าทำความสะอาดได้ถึงซอกพื้นโฟม โดยไม่ทำลายเนื้อโฟมเลยแม้แต่น้อย 

 ส่วนที่ 3 พื้นข้างในรองเท้า
ปัญหาที่คนทั่วไปอาจยังไม่รู้คือ NMD รุ่นนี้ ไม่สามารถถอดพื้นรองเท้ามาทำความสะอาดข้างนอกได้!! และอีกปัญหาหนึ่งคือคราบสกปรกที่ฝังอยู่ข้างในรองเท้าเหล่านี้ เป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรียชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดกลิ่นเท้า!! เอาละ แล้วเราจะทำอย่างไรดี 
 จากประสบการ์ณของ Admin ถ้าถอดไม่ได้ ก็แนะนำให้ซักมันทั้งอย่างนั้นเลยครับ แต่ปัญหาคือ ถ้าใช้น้ำยาทั่วไป จะทำให้เกิดความชื้นและกลิ่นอับตามมา เพราะพื้นโฟมนั้นเกิดความชื้นได้ง่ายมากๆ ถ้าเลือกน้ำยาไม่ถูกชนิดละก็ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน กลิ่นก็จะไม่มีทางหายไปครับ
โดยจุดสำคัญคือ ควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้
1. ไม่ต้องใช้น้ำช่วยในการทำความสะอาด ไม่ทำให้อับชื้น เพราะจะเป็นเพิ่มกลิ่นอับเข้าไปอีก
2. ช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นอับ
3. มีรูปแบบที่ใช้ง่าย สามารถเข้าถึงได้แม้กระทั่งส่วนลึกๆ ของปลายรองเท้า
ถ้าใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ขาดคุณสมบัติเหล่านี้ ปัญหานี้ก็จะแก้กันไม่จบไม่สิ้นเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะหาซื้อน้ำยาทำความสะอาดมาใช้ ก็เลือกกันดีๆนะครับ

MDs’ FAVORITES | adidas NMD R2 PK สีดำและขาวคู่งาม ที่เราหยิบมาให้ดูกัน


รองเท้าที่โด่งดังมากๆ คู่หนึ่งในประเทศไทย คงต้องยกให้ adidas NMD เพราะไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาก็ตาม ทุกคนก็ยังอยากได้กันทั่วบ้านทั่วเมือง แถมได้ข่าวว่าจะมีคนไป Camp อีกด้วย เพราะกติกาการซื้อขายเป็นแบบ First Come, First Serve และกำลังจะวางขายในวันพรุ่งนี้ แต่เราโชคดีครับได้มีโอกาสหยิบมาให้ทุกท่านได้ดูกันก่อนแบบ Exclusive ลองมาดูกันครับว่ารองเท้าคู่นี้เป็นยังไง



NMD R2 นั้นพัฒนาจาก R1 ขึ้นมาพอสมควรเลย เพราะมีการเอา Plug ด้านหน้าและข้างเท้าด้านนอกออก เหลือไว้เพียงข้างเท้าด้านในเท่านั้น (ต่อยอดออกมาให้คล้ายกับ Ultraboost มากขึ้น) ซึ่งทำให้ปริมาณ Boost มีมาขึ้นในช่วง Fore-Foot และถึงแม้จะลด Plug ข้างเท้าด้านนอกออก แต่ adidas ก็ได้ปั้มลายขีดเฉียงเพิ่มเข้ามาแทนที่

ลายที่เกิดจากการ Knit ของผ้า Primeknit ยังคงยึดเอาต้นแบบของ R2 Original มาใช้ แต่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยทำให้รองเท้าคู่นี้มีลิ้นรองเท้า และบุช่วงข้อเท้าด้วยผ้า Mesh เพิ่มเติมเพื่อให้ใส่สบายมากขึ้น แต่ส่วนปลายเท้าจะเป็นผ้า Primeknit ล้วนครับ (สังเกตได้จากรอยต่อของตัวรองเท้า) ส่วนพื้นรองเท้ายังเป็น Rubber Sole อยู่เช่นเดิม แต่เปลี่ยนสีเป็นสีแดง แถมคู่ที่เราหยิบมาให้ดู Pull Tab ด้านหลังมีภาษาญี่ปุ่นด้วยนะครับ น่าจะเป็น Lot ที่เท่ขึ้นไปอีก



คำถามสำคัญคือ ใส่สบายมั้ย? ด้วย Boost Technology ยังไงๆ ก็ใส่สบายกว่า EVA ธรรมดาแน่นอน ยิ่งลด Plug EVA ที่เคยอยู่ในรุ่น R1 ลงไปด้วย ยิ่งทำให้รองเท้าคู่นี้ใส่สบายมากขึ้น แต่สิ่งเดียวที่ MDs ติดก็คือตัวลิ้นรองเท้าครับ จริงๆ เราอยากให้คู่นี้ยังคงความเป็น Slip-On เหมือน R1 และ R2 Original แต่โดยรวมแล้ว คู่นี้ถือว่าสวย ใส่สบาย ใครว่างวันพรุ่งนี้ (วันจักรี) ก็อย่าลืมไปดู NMD R2 Pk ตัวนี้นะครับ ก่อนที่มันจะหายไปจากตลาดในเวลาอันรวดเร็ว รีบไปเลยๆ